Botulinum Toxin
Botulinum toxin-A คืออะไร?
Botulinum toxin type A หรือ BTA เป็นสารชีวภาพสกัดจากเชื้อแบคทีเรีย Clostridium Botulinum ซึ่งเป็นเชื้อแบคทีเรียกลุ่มเดียวกับเชื้อที่ทำให้เกิดบาดทะยัก แต่ได้ผ่านกระบวนการทำเชื้อให้บริสุทธิ์แล้ว จึงสามารถนำมาใช้ในทางการแพทย์ วิธีการใช้คือผสมเชื้อเข้ากับน้ำเกลือ และฉีดเข้าสู่กล้ามเนื้อที่ต้องการรักษา เพื่อยับยั้งการทำงานของกล้ามเนื้อนั้นๆ ซึ่งจากอดีตถึงปัจจุบันรวมถึงในอนาคต ก็ได้มีการนำ BTA มาใช้ในจุดประสงค์ทางด้านความงามและการชะลอวัยอย่างแพร่หลาย แต่จะใช้อย่างไรให้ปลอดภัย ใช้ได้นานๆ ไม่ดื้อไม่ซน ตามมาเลยค่ะ
สิ่งที่ควรรู้และเข้าใจ ก่อนเข้ารับการรักษาด้วย BTA
- ริ้วรอยบนใบหน้าเกิดจากการทำงานของกล้ามเนื้อใต้ชั้นผิว เมื่อกล้ามเนื้อขยับจากการแสดงสีหน้าก็จะเกิดเป็นรอยพับที่ชั้นผิวด้านนอก รอยพับที่เกิดขึ้นซ้ำๆก็จะกลายเป็นริ้วรอยนั่นเอง
- หลักการการทำงานของBTA คือไปลดการทำงานของกล้ามเนื้อ ดังนั้นกล้ามเนื้อขยับได้น้อยลง>>ผิวหนังด้านนอกพับน้อยลง>>ริ้วรอยก็ลดลง
- BTA ตามมาตรฐานทั่วไปจะออกฤทธิ์ได้ 4-6เดือน โดย4เดือนที่ว่าก็ไม่ใช่ว่ายังตึงเป๊ะอยู่ อาจเริ่มเห็นริ้วรอยกลับมาได้ตั้งแต่เดือนที่3 ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล
- แนะนำรอบการฉีดBTAไม่เร็วไปกว่า3เดือน เนื่องจากอาจจะทำให้เกิดภาวะดื้อยาได้
- ภาวะดื้อยา หรือได้ยินกันทั่วไปว่า"ดื้อโบ" คือการที่ร่างกายเราสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นมาต่อต้านBTA ความหมายก็คือเราจะฉีดBTAแล้วไม่เห็นผลอีกหรือเห็นผลน้อยลง
- สภาพผิวก็มีส่วนให้BTAออกฤทธิ์ได้สั้นหรือยาว สภาพผิวที่ชุ่มชื้นจะทำให้ฤทธิ์ของBTAอยู่ได้นานกว่าคนที่มีสภาพผิวแห้ง
- ความสำคัญมากๆเลยคือต้องใช้ยาที่ผ่านอย. ยาที่นำเข้าอย่างถูกกฎหมาย มีบริษัทผู้จัดจำหน่ายอย่างถูกต้องและต้องตรวจสอบได้ เผื่อหลีกเลี่ยงอาการที่ไม่พึงประสงค์จากขนาดยาที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน
- เทคนิคการฉีด การผสม รวมถึงปริมาณBTA ที่ใช้ ก็มีผลต่อการแก้ไขริ้วรอย ปรับรูปหน้า จึงควรปรึกษาแพทย์ผู้ฉีดให้เข้าใจตรงกันก่อนฉีดทุกครั้ง
- การถ่ายรูปก่อนและหลังการฉีดBTA 1สัปดาห์ จะเป็นประโยชน์ต่อคนไข้เอง เพื่อให้เห็นถึงความแตกต่างและบันทึกเก็บเป็นข้อมูลสำหรับการฉีดในครั้งถัดไป