Coolsculpting

หัวทรีตเมนต์จะทำการส่งผ่านความเย็นในช่วง -11ถึง -13องศาเซลเซียสลงไปยังชั้นไขมัน เพื่อแช่แข็ง(freeze)เซลล์ไขมันและทำให้จำนวนเซลล์ไขมันบริเวณนั้นเกิดการสลายแบบไม่กลับคืน(cryolipolysis) หลังจากนั้นเซลล์ไขมันที่ตายแล้วก็จะถูกร่างกายของเรากำจัดออกเองตามธรรมชาติ โดยการทำCoolSculpting1ครั้ง สามารถลดจำนวนเซลล์ไขมันในบริเวณที่ทำการรักษาได้ถึง27%

สามารถเห็นผลลัพธ์ได้ตั้งแต่ครั้งแรกเลยค่ะ เนื่องจากเป็นการกำจัดจำนวนเซลล์ไขมันเฉพาะจุดอย่างถาวร โดย 3-4สัปดาห์แรกหลังทำจะเริ่มเห็นว่าสัดส่วนบริเวณที่ทำเล็กลง และผลลัพธ์จะชัดเจนเต็มที่เมื่อครบ 3เดือน หากยังปฏิบัติตัวเหมือนเดิม เช่น กินอาหารเท่าๆเดิม ดื่มเท่าๆเดิม ไขมันบริเวณนั้นก็จะไม่กลับมาอีก ซึ่งการกลับมาของไขมันไม่ใช่ว่ามีเซลล์ไขมันเกิดขึ้นใหม่ แต่เป็นการพองขยายตัวของเซลล์ไขมันที่ยังเหลืออยู่ เฉพาะฉนั้นแล้วหากบริเวณที่ต้องการสลายมีเซลล์ไขมันเดิมอาศัยอยู่มาก สามารถทำCoolSculptingซ้ำในจุดเดิมได้อีก จะได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้นค่ะ

ต้องบอกก่อนว่าการทำCoolSculpting ไม่ใช่การลดน้ำหนัก แต่เป็นการกำจัดไขมันส่วนเกินเฉพาะจุด จึงเหมาะกับผู้ที่มีไขมันส่วนเกินใต้ผิวหนัง(Subcutaneous Fat)ในจุดที่กำจัดออกได้ยาก หน้าท้อง เอว ท้องน้อย ท้องแขน ปีกหลัง ต้นขา เนื้อกองเหนือหัวเข่า เหนียง เป็นต้น ทั้งนี้สามารถเข้ามาปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนได้ค่ะ

เนื่องจากการกำจัดไขมันด้วยวิธีนี้ใช้ความเย็น ผู้เข้ารับการรักษาจะรู้สึกเย็นมากๆในช่วง10นาทีแรกของการเริ่มการรักษา หลังจากนั้นจะเปลี่ยนเป็นความรู้สึกชาตลอดการติดเครื่องมือ ณ จุดนั้น หลังถอดเครื่องมือจะต้องมีการนวดเผื่อให้เซลล์ไขมันที่ถูกแช่แข็งกระจายตัว ช่วยให้ร่างกายสามารถจำกัดเซลล์ไขมันตายได้ดีขึ้น ในขั้นตอนนี้ผู้เข้ารับการรักษาอาจจะรู้สึกถึงความปวดระบมได้บ้าง

ขั้นแรกคือแนะนำให้เข้ามาประเมินโดยแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญก่อนค่ะ เนื่องจากจำนวนหนีบของทรีตเมนต์ขึ้นกับปริมาณไขมันของบริเวณที่ต้องการจะสลาย แต่ละคนใช้ไม่เท่ากัน เช่น ต้องการลดเอวบริเวณห่วงยาง บางคนอาจใช้4หนีบ บางคน2หนีบก็อยู่แล้ว

ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ทำการรักษา หากไม่ต้องการพักฟื้นนาน ไม่มีแผล ไม่เสี่ยงต่อการใช้ยาชาปริมาณมาก หรือความเสี่ยงของการดมยาสลบ ไม่เกิดผังผืดใต้ผิว ไม่ต้องนอนโรงพยาบาล สามารถทำงานหรือใช้ชีวิตตามปกติในวันถัดไปได้เลยก็จะแนะนำลองมาทำCoolSculptingดูค่ะ